18 บทเพลงที่เบ่งบานใน Best of Fujii Kaze 2020-2024 ASIA TOUR in Bangkok

18 บทเพลงที่เบ่งบานใน Best of Fujii Kaze 2020-2024 ASIA TOUR in Bangkok

18 บทเพลงที่แปรเปลี่ยนเป็นสวนดอกไม้ เบ่งบานและเติมเต็มความสุขให้กับผู้คนมากมายใน Best of Fujii Kaze 2020-2024 ASIA TOUR in Bangkok

หากจะมีเจ้าของสวนดอกไม้สักคนที่ทำให้ดอกไม้เบ่งบานสวยงามและพริ้วไหวไปตามสายลมแห่งเสียงเพลงได้เป็นอย่างดี คนคนนั้นคงเป็นใครไม่ได้นอกจาก ฟูจิอิ คาเสะ อัครมหาศิลปินอินดี้ศรีนิปปอนที่หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความสุขให้กับคาเสะทาเรียน ณ สยามประเทศได้อิ่มเอมหัวใจกันถ้วนหน้ากับคอนเสิร์ตแบบฟูลแบนด์ครั้งแรกและวันแรกในประเทศไทย “Best of Fujii Kaze 2020-2024 ASIA TOUR in Bangkok” ที่จัดขึ้น IMPACT Arena โดย Avalon Live 

18 บทเพลงที่เบ่งบานใน Best of Fujii Kaze 2020-2024 ASIA TOUR in Bangkok

คอนเสิร์ตเริ่มตรงเวลาแบบที่ว่าไม่ต้องมีพิธีรีตรองอะไรกับชายชุดม่วงที่ปรากฏตัวบนเวทีด้วยการเล่นเปียโนในเพลงเปิดเพลงแรก YASASHISA ที่แค่เสียงของคาเสะแบบก้องกังวานเสนาะหูกับเปียโนเพราะ ๆ ก็สะกดเราไว้ได้ในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที ถือเป็นการเลือกเพลงเปิดได้ดีแบบเราเองก็ไม่คิดว่ามันจะดีขนาดนี้

ก่อนจะต่อด้วยเพลง Nan-Nan ที่ค่อย ๆ ดันมู้ดคนดูอย่างเราให้ค่อย ๆ ได้ขยับตัวกันเล็กน้อย แล้วเข้าสู่เพลง Mo-Eh-Wa ต่อด้วย Kiri Ga Naikara ที่จังหวะคาเสะเอาฮู้ดลงแล้วโยกย้ายไปมาหน้าไมค์นั้นชวนโยกตามสุด ๆ แต่ถ้าซาวด์เครื่องดนตรีที่ชอบสุด ๆ ในช่วงแรกนี้ก็ต้องเพลง Hedemo Ne-Yo นี่แหละ! ซาวด์แน่น ๆ ของกีตาร์ เบส และกลองกับเสียงทุ้มหล่อ ๆ ของคาเสะมันกลมกล่อมมาก ๆ 

หลังจากจบเฮเดะฯ คาเสะกลับขึ้นเวทีอีกครั้งในชุดน่ารัก ๆ ที่เตรียมมาแจกความสดใสให้กับคาเสะทาเรียนด้วยเพลง Grace ที่… จะพิมพ์ยังไงดี ทั้งเสียงของคาเสะ ทั้งท่าทาง มันแบบว่า grace สมชื่อเพลงจริง ๆ มันมีความทุ้มในใจ อธิบายเป็นตัวอักษรได้ยากมาก แต่เอาเป็นว่ามันจับจิตจับใจไปหมด แล้วช่วงท้ายเพลง ตอนคาเสะเต้นท่าโยกไหว้เจ้าก็ทำเอาคนดูอย่างเราอมยิ้มและอดที่จะเต้นตามไม่ได้เลยทีเดียว

18 บทเพลงที่เบ่งบานใน Best of Fujii Kaze 2020-2024 ASIA TOUR in Bangkok

จบจากเพลงที่งดงามอย่างเกรซก็ต่อด้วยอีกเพลงความหมายดีอย่าง Seishun Sick ที่แฟน ๆ พร้อมใจกันปรบมือเข้าจังหวะกันทั้งฮอล เป็นอีกเพลงที่เราชอบมาก ๆ ฟังแล้วไม่รู้สึก sick แต่กลับได้รับพลังสุด ๆ ก่อนคาเสะจะพักทักทายแฟน ๆ กันเล็กน้อย แล้วต่อด้วยการถ่ายทอดความ Feelin’ Go(o)d กับเหล่าแดนเซอร์ที่มาเติมสีสันบนเวทีให้สดใสมากขึ้น

ก่อนจะหว่านเมล็ดพันธุ์ความสดใสต่อด้วยเพลง Hana พร้อมกับชวนทุกคนทำท่าดอกไม้บานเต็มฮอล ต่อด้วยการชวนแฟน ๆ ฮัมเพลงเพื่อเข้าสู่เพลง Garden ที่เพลงนี้ซาวด์กีตาร์เพียว ๆ กับเสียงของคาเสะในช่วงต้นเพลงคือเพราะถูกจริตมาก ๆ และคาเสะก็ทำหน้าที่เจ้าของสวนได้ดีสุด ๆ ด้วยการเดินไปร้องไปจนทั่วทุกมุมของเวที หว่านความสุขให้คาเสะทาเรียนได้อย่างทั่วถึง

จบจากช่วงความสุขบานเต็มทุ่งแล้ว คาเสะก็กลับขึ้นเวทีอีกครั้งด้วยการโชว์ความสามารถในการเป่าแซกโซโฟนและชุดพร้อมทำงานกับเพลง Workin’ Hard แล้วต่อด้วยเพลง Mo-Eh-Yo ที่เราเอนจอยกับการดูคาเสะเต้นแบบภาพซ้อนที่ฉายขึ้นจอไม่น้อย ไหนจะตอนที่โชว์เล่นคีย์ตาร์โรแลนด์อีก บอกเลยว่าพ่อเขาขนมาทุกทักษะการเล่นดนตรีแบบจัดเต็มไม่มีกั๊ก 

ต่อด้วยเพลง Kirari ที่เราอิ่มเอมกับการฟังเสียงเบสไม่น้อยไปกว่าการฟังเสียงคาเสะ แล้วต่อด้วยการฟังเสียงกีตาร์และโยกเพลิน ๆ ไปกับเพลงจังหวะสนุก ๆ อย่าง Damn แล้วก็ถึงเพลงที่เป็นนัมเบอร์วันของเราอย่างเพลง Tabiji ที่ทั้งเนื้อเพลงและดนตรีมันถูกจริตไปหมด พอได้มาฟังฟูลแบนด์สด ๆ แบบนี้ก็ได้ฟีลไปอีกแบบ

หลังจากนั้นก็ถึงช่วงเวลาที่หลายคนรอคอยกับเพลงที่มีความหมายลึกซึ้งกินใจซึ่งคาเสะมุ่งมั่นตั้งใจรังสรรค์มันขึ้นมาและกลายเป็นอีกเพลงที่หลายคนตกหลุมรักอย่างเพลง Michi Teyu Ku ที่นอกจากเสียงเปียโนและความหมายของเนื้อเพลงแล้ว ไลท์ติ้งในคอนเสิร์ต พร้อมกับทะเลดาวจากแสงแฟลชของคนฟังก็ทำให้เพลงนี้มันงดงามขึ้นไปอีกขั้น 

ก่อนไลท์ติ้งบนเวทีจะค่อย ๆ มืดลงเหลือเพียงสปอตไลท์ดวงเดียวที่สาดไปยังฟูจิอิ คาเสะซึ่งนั่งบรรเลงเปียโนเพื่อเข้าสู่เพลง Shinunoga E-wa ที่บอกเลยว่าสมูทสุด ๆ

แล้วปิดท้ายคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วยเพลงดังอีกเพลงอย่าง Matsuri ที่มีการใส่เสียงดนตรีไทยทั้งฆ้อง ทั้งปี่พาทย์เข้ามาในอินโทร เรียกเสียงฮือฮาแจกแฟนเพลงได้ไม่น้อย เต้นและโยกไปตามคาเสะแบบเพลิน ๆ รู้ตัวอีกทีก็จบคอนเสิร์ต พร้อมการไหว้ขอบคุณแฟน ๆ ทั่วทุกมุมเวทีของคาเสะ

เป็นคอนเสิร์ตที่รู้สึกว่าหนึ่งชั่วโมงครึ่งนี้มันผ่านไปไวมากจนน่าใจหาย อยากจะตะโกนอังกอร์ให้คาเสะออกมาร้องต่ออีกสักชั่วโมง แต่ไฟภายในฮอลก็สว่างขึ้นแบบไม่ทันได้เตรียมใจ แต่ถึงอย่างนั้นก็ถือเป็นการปิดท้ายคอนเสิร์ตกันแบบฟีลกู้ด กลับบ้านกันแบบยิ้มไม่หุบเลยล่ะ 

เราว่าเป็นทัวร์ที่จัด setlist และแบ่งช่วงได้ดีมาก ๆ การลีดเข้าเพลงแต่ละเพลงก็สมูทสุด ๆ ซาวด์ดนตรีก็ดี อาจจะมีจังหวะก้องจนสะท้อนบ้างแต่ก็ไม่ได้ดึงความสนใจเราไปจากเวทีเลย เรื่องไลท์ติ้งอาจไม่ได้หวือหวา แต่มีการคุมมู้ดที่เข้ากับเพลงได้เป็นอย่างดี

ส่วน ฟูจิอิ คาเสะ คือมีเสน่ห์สุด ๆ แบบที่อธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ยาก (อีกแล้ว) ก็ตามสไตล์อินดี้ของเขาน่ะแหละ คาเสะมีมู้ดบางอย่างในตัวที่สะกดให้เราฟังเขาร้อง ฟังเขาพูด ดูเขาโยก ดูเขาเล่นดนตรีได้แบบไม่รู้สึกเบื่อที่จะมองเลย มีแต่ความน่าเอ็นดูลอยฟุ้งอยู่รอบตัว เห็นเขายิ้มก็ยิ้มตาม เห็นเขาโยกก็โยกตาม 

ส่วนเรื่องเสียงก็คือดีงามไปหมด (ถึงจะแอบมีจังหวะเหินจนชวนอมยิ้มอยู่บ้างเล็กน้อยก็ตาม) และส่วนตัวเราว่าการร้องคำที่มีเสียง “ร” ของคาเสะมันน่าฟังมาก ๆ แล้วเรื่องเพอร์ฟอร์แมนซ์ไม่ว่าจะเป็นทักษะการเล่นเครื่องดนตรีที่หลากหลาย และการเต้นไปเรื่อยแต่มีเสน่ห์สุด ๆ นั้นก็ดีไม่แพ้กัน 

เหมือนฟูจิอิ คาเสะเกิดมาเพื่อสร้างความสุขให้คนฟังอย่างเราผ่านเสียงเพลงที่เขาสร้างสรรค์มันขึ้นมาด้วยใจผ่านความเป็นตัวของตัวเองที่ทำให้เรารับรู้ได้ว่าเขามีความสุขกับสิ่งที่เขาทำมากแค่ไหน และความสุขนั้นมันก็ถูกถ่ายทอดมายังคนฟังอย่างเราได้เป็นอย่างดีด้วย 

ดังนั้นถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่รักในการฟังเพลง รักในเสียงดนตรี โลกดนตรีของผู้ชายที่มีชื่อว่า “Fujii Kaze” (ฟูจิอิ คาเสะ) คนนี้จึงถือเป็นอีกโลกที่เราอยากชวนให้คุณลองก้าวขาเข้ามารับความอิ่มเอมใจจากเขาดูสักครั้ง และเราเชื่อว่าคุณจะสัมผัสได้ถึงความรักมากมายที่เขาตั้งใจถ่ายทอดมันออกมาผ่านทุก ๆ เพลงที่เขารังสรรค์อย่างแน่นอน

Comments

No comments yet. Why don’t you start the discussion?

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *